สวัสดีครับ หลังจากที่ได้เล่าเรื่องการเลือกซื้ออูคูเลเล่ไปเมื่อไม่นานมานี้ มีคนทักว่าที่ผมอ้างอิงเกี่ยวกับให้ไปดูในนิตยสาร Ukulele Magazine ว่าถ้าที่ญี่ปุ่นเขาใช้อะไร ก็แปลว่าผู้ผลิตนั้นมีมาตรฐานดีเยี่ยม ผ่านเกณฑ์อันพิถีพิถันของชาวอาทิตย์อุทัย ที่เลือกใช้แต่ของดีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียง การเล่น สัมผัส หรือรูปลักษณ์ ซึ่งผมเองก็อิงตามนั้นมาโดยตลอด
แต่เจ้านิตยสารนี้ ไม่ได้มีขายในประเทศไทยสิครับ ถ้าอยากได้จริงๆ อาจจะลองสั่งจากร้านหนังสือญี่ปุ่นชั้นแนวหน้าในกทม.ได้ เขาจะออกเพียงปีละ 2 ฉบับเท่านั้น นั่นคือหน้าร้อน และหน้าหนาว ที่ออกแค่สองเล่มก็เพราะแม้จะมีคอมมิวนิตี้คนเล่นอูคูเลเล่ที่ญี่ปุ่นมากมาย แต่ก็ไม่ได้มากมายก่ายกองขนาดที่จะออกนิตยสารได้ทุกเดือน ซึ่งถ้าแบบรายเดือนจะเป็นวารสารแจกฟรีเล่มบางหน่อยชื่อ Rolling Coconut ที่สามารถไปหยิบฟรีได้ตามร้านดนตรี (ผู้เขียนเคยลงแล้วทั้งสองเล่ม ไม่ได้คุย แต่มันเกิดขึ้นจริง)
นิตยสาร Ukulele Magazine นี้ จะมีหน้าปกเป็นภาพวาดน่ารักๆ โดยศิลปินคนเดียวกันมาตั้งแต่เริ่มพิมพ์ ผมนั้นโชคดีมีทุกเล่มตั้งแต่เล่มแรก ตั้งใจสะสมให้ครบทุกเล่ม วางเรียงกันเอาสันออกแล้วดูมีค่ามาก เดี๋ยวพาชมส่วนต่างๆ ของนิตยสารนี้เสร็จ ผมจะเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของผมกับนิตยสารญี่ปุ่นนี้ครับ
เริ่มด้วยการ์ตูนขำขันเกี่ยวกับอูคูเลเล่ ตอนนี้ประมาณว่าอากาศดี เลยชวนไปเล่นอูคูเลเล่ในสวนดีกว่า ไปถึงสวนอย่างชิล แต่ฝนดันตกลงมา เลยต้องวิ่งหลบ จบ
ต่อด้วยการร์ตูนน่ารักๆ สอนโน๊ตเพลงเบสิค และโครงสร้างของคอร์ด ซึ่งผมว่าดีงาม เพราะเขาตระหนักถึงทั้งมือใหม่ที่เปิดขึ้นมาดูเป็นครั้งแรก และมือเก่าที่คร่ำหวอดก็สามารถเอาไปใช้สอนต่อได้อีก อ่านเล่นก็เพลิน อย่างเราดูรูปก็พอเข้าใจ
จากนั้นก็เข้าสู่เรื่องซีเรียสอย่าง การวิเคราะห์อย่างมีหลักการโดย Ryo Natoyama บัณฑิตหนุ่มที่ใช้อูคูเลเล่จบปริญญาทางดนตรีจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ที่ถือเป็นสถาบันศึกษาที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ตอนนี้เป็นศิลปิน และมาเป็นนักเขียนประจำด้วย โดยเขาจะคุยเเจาะลึกรื่องเอฟเฟคและซาวด์ที่เกี่ยวข้องกับอูคูเลเล่
มีการแนะนำร้านขายอูคูเลเล่พร้อมสินค้าแนะนำ และโรงเรียนสอนอูคูเลเล่ทั่วประเทศ แบ่งตามภาคต่างๆ แม้ร้านที่ลงจะเป็นร้านเดิมๆ ทว่าในแต่ละเล่มจะแนะนำของไม่ซ้ำกัน เพราะเขาจะเลือกเอาของดี ณ ตอนนั้นมานำเสนอกัน
หน้าประชาสัมพันธ์กิจกรรมอูคูเลเล่ต่างๆ และแนะนำอัลบั้มใหม่ๆ ของศิลปินอูคูเลเล่ ผมอยากให้มีแบบนี้ที่ไทยบ้างจริงๆ ก่อนอื่นเลยคืออยากให้มีสังคมอูคูเลเล่แข็งแรง ที่ไม่ใช่เฉพาะเด็กๆ แต่เป็นทุกวัย เพราะจริงๆ แล้วอูคูเลเล่นั้นเล่นได้ทุกวัย เป็นกิจกรรมยามว่างที่ใครก็เล่นได้ทุกวัน ทุกที่ สังสสกันสนุกจะตาย สักวันผมจะทำให้เมืองไทยมีแบบนี้ ถ้าผมไม่ตายซะก่อนนะครับ
คราวนี้มาที่ช่วงรีวิวครับ แต่ละเล่มเขาจะเชิญศิลปินอูคูเลเล่แต่ละท่าน มารีวิวอูคูเลเล่ที่ทางกองบรรณาธิการเลือกมาให้ ซึ่งส่วนนี้จะสามารถดูได้ด้วยว่าอูคูเลเล่แบบไหน ที่ชาวญี่ปุ่นเขาชอบ และเลือกมาแนะนำกัน แน่นอนอะไรที่เขาแนะนำคือดีงามแน่นอน เพราะนี่คือญี่ปุ่นนะครับ ไม่มีไก่กาอาราเร่
ผมจะเลือกหน้ารีวิวต่างๆ มาให้ชมนะครับ จริงๆ หลายเล่มรวมกันมีแนะนำมากมาย ก็ขอสุ่มเลือกมาครับ จะเห็นว่ามี aNueNue อยู่ด้วยนะครับ แต่เป็นรุ่นสูงๆ เสมอ เพราะที่ญี่ปุ่นมักจะเลือกตัวดีไปเล่นเลย ตัวเริ่มๆ ก็มีขายแต่ส่วนมากจะเป็นเด็กๆ ที่ใช้ พอดีอูคูเลเล่ผู้ใหญ่ญี่ปุ่นเล่นกันเป็นเรื่องปกติ เพราะมีความเข้าใจว่ามันไม่ใช้ของเล่น มันคือเครื่องดนตรีที่เล่นได้กว้างและลึก เด็กก็เล่นแบบหนึ่ง ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ลึกล้ำ อูคูเลเล่ที่นั่นจึงมีความเฟื่องฟูมาก
อูคูเลเล่แต่ละตัวที่รีวิว ส่วนมากจะเป็นตัวเทพๆ ราคาดุเดือด ทว่าชาวญี่ปุ่นเข้าใจและถือเป็นงานศิลปะ ซึ่งเมื่อผมได้สัมผัสอูคูเลเล่ดีๆ ของญี่ปุ่นแล้ว ผมก็เห็นด้วยว่ามันงดงาม ไร้ที่ติ ทั้งข้างนอกและข้างใน แถมเสียง สัมผัสดีมากๆ คนสร้างได้ใส่จิตใจของเขาลงไปเต็มที่ ผลิตสิ่งดีๆ ที่สุดออกมา
ผมไม่พล่ามแล้วครับ ให้ชมไปก่อน
เล่มล่าสุดมี Shima Ukulele ด้วยครับ เป็นอูคูเลเล่ที่ออกแบบโดยศิลปินอูคูเลเล่อันดับหนึ่งของโลก Jake Shimabukuro
มาชมหน้าโฆษณากันบ้างครับ อย่างที่เล่าครับ ถ้าอยากมาดูว่าอูคูเลเล่แบรนด์ระดับโลกอันไหนดีจริงๆ ให้มาดูที่นิตยสารญี่ปุ่นนะครับ เขตปลอดไก่กาอาราเร่
เดี๋ยวผมลงให้ชมคร่าวๆ นะครับ บางแบรนด์ที่ดีๆ ที่ไม่ได้ลงก็มีนะครับ แต่ที่ลงนี่ดีแน่ๆ ไม่ต้องสงสัยใดๆ ครับ บางทีแบรนด์อูคูเลเล่ท่านอาจไม่คุ้นเคย แต่ชื่อเหล่านี้เชื่อใจได้แน่นอนครับ
ชมสนุกๆ ครับ
หลังจากนี้จะลงอีกสักอันนะครับ แล้วไปเรื่องอื่นต่อดีกว่า
จบเรื่องโฆษณาเพื่อดูว่าแบรนด์ดีๆ มีอะไรบ้างกันแต่เพียงเท่านี้นะครับ จากนี้ขอทิ้งท้ายด้วยช่วงที่ผมโชคดีได้ไปอยู่ในนิตยสารนี้บ้างเมื่อครั้งที่จัดงาน Thailand Ukulele Festival ครั้งที่ 2 ซึ่งในปัจจุบันผมก็ยังจัดอยู่นะครับ และจะมีงานครั้งที่ 7 ขึ้นเร็วๆ นี้ที่เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ วันที่ 29 พ.ย. - 2 ธ.ค. 2561 ครับ ห้ามพลาดนะครับ
บรรณาธิการนิตยสารเล่มนี้ได้ข่าวเรื่องงานไทยแลนด์อูคูเลเล่เฟสติวัล เลยเดินทางมาทำสกู๊ป ผมก็ดีใจที่มีส่วนทำให้ชื่อประเทศไทยไปอยู่บนสื่อญี่ปุ่น จากวันนั้นถึงวันนี้ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับเขา และเป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้นมาครับ โดยผมมีเขียนคอลั่มให้เขาด้วยครั้งหนึ่ง เมื่อตอนไปงานอูคูเลเล่เฟสติวัลที่โอกินาว่า
เราคือร้านของคนไทยร้านเดียวที่ได้ลงนิตยสารเล่มนี้ เพราะเราเป็นมากกว่าร้าน ที่มีร้านเพราะเรารักอูคูเลเล่ จึงต้องทำร้านเพื่อเผยแพร่อูคูเลเล่ให้ถูกต้อง นิตยสารญี่ปุ่นเขาเข้าใจเราจึงมาหา วันก่อนมีเด็กคนหนึ่งมาสั่งซื้ออูคูเลเล่ตัวเริ่มต้นมากๆ แต่บอกผมว่าไม่กล้าสั่งกลัวโดนหลอก ให้ผมถ่ายภาพหน้าร้านไปให้ดูว่ามีตัวตนจริง ผมไม่ได้ถ่าย แต่บอกเขาไปว่าเชื่อใจผมเถอะ เพราะถ้าที่ประเทศไทยเรื่องอูคูเลเล่ ก็ไม่น่ามีที่ไหนน่าเชื่อถือกว่าผมแล้ว ส่วนในใจก็คิดว่า แหมอยากให้น้องไปอ่านนิตยสารญี่ปุ่นจัง 555
ปิดท้ายด้วยภาพที่มีศิลปินชาวไทยอยู่ด้วยครับ มีลุลาและสิงโตนำโชค ที่ใช้ aNueNue ทางนิตยสารเลยนำไปลงพร้อมกับศิลปินคนอื่นๆที่ใช้เหมือนกันครับ
ปิดที่พาชมโรงงานของ aNueNue ครับ
ผมหวังว่าการนำนิตยสารอูคูเลเล่ของญี่ปุ่นมากางดูกันครั้งนี้ จะเพิ่มมุมมองใหม่ๆ ต่ออูคูเลเล่ให้กับท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ เบื้องต้นเลยคืออยากนำเสนอว่าอูคูเลเล่ดีๆ ที่เขาใช้นั้นมีอะไรบ้าง เวลาท่านหาอูคูเลเล่ให้ตัวท่านหรือลูกหลาน คนรัก จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจครับ แน่นอนว่าที่ไทยมักจะเลือกรุ่นเริ่มๆ ท่านก็เลือกรุ่นเริ่มๆ ของแบรนด์ที่ญี่ปุ่นเขานำเสนอได้ครับ รับรองว่ามีคุณภาพ บางครั้งผมก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร เวลามีคนไม่รู้จักผู้ผลิตอูคูเลเล่เลยสักราย แล้วไม่เข้าใจว่าแบรนด์ที่ดีมีชื่อเสียง มันแตกต่างกับไก่กาอาราเร่ยังไง ผมก็ใช้นิตยสารนี้อ้างอิงครับ แต่ถ้าคนๆ นั้นฟังเป็น แค่มาเล่น มาสัมผัสเปรียบเทียบก็จะเข้าใจ
ผิดพลาดประการใดขออภัยนะครับ ผมก็แค่อยากมาเล่าเรื่องเป็นอาหารสมองให้ท่าน ขอบคุณคร้าบบบบบบ