สเน่ห์ของอูคูเลเล่ที่ผ่านมากี่ปี เธอก็ยังน่ารักเหมือนเดิม

สเน่ห์ของอูคูเลเล่ที่ผ่านมากี่ปี เธอก็ยังน่ารักเหมือนเดิม

ผมก็เหมือนหลาย ๆ ท่านที่เริ่มเล่นดนตรีจริงจังด้วยกีตาร์ ตั้งแต่วัยรุ่นสู่มหาวิทยาลับมาถึงวัยทำงาน จากกีตาร์คลาสสิค มากีตาร์โฟล์ค ถึงกีตาร์ไฟฟ้า ไต่ไปจนถึงระดับคัสตอม แม้ฝีมือจะไม่ได้เก่งกาจ แต่ถ้าอุปกรณ์ผมกล้าบอกว่าไม่เป็นรองใคร (ยกเว้นพี่ ๆ ที่สะสมของโหดระดับวินเทจล้ำลึกนะครับ) อะไรที่ว่าดีก็ดั้นด้นไปหามาสัมผัสกันทุกย่านน้ำ

ผมบ้าการเล่นกีตาร์มาก ถึงขั้นเมื่อตอนเรียนจบปริญญาตรีทางเศรษฐศาสตร์​ ก็ไปเข้าเรียนดนตรีต่อโดยมีเครื่องเอกเป็นกีตาร์ แต่โชคร้ายที่ช่วงนั้นเกิดมหาภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ ค่าเงินบาททะลุ 50 บาทต่อหนึ่งดอลล่า ไอ้เราจบเศรษฐศาสตร์มา ก็หยั่งรู้ว่าถ้าจะเรียนตรีอีกไปในช่วงนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ เพราะค่าเสียโอกาสที่จะไปเรียนอีก 4 ปี แทนที่จะไปทำงานเป็นเรื่องเป็นราว และค่าเล่าเรียนที่เพิ่มไปเท่าตัว บวกลบคูณหารแล้วน่าจะไม่คุ้มค่าแน่ ๆ 

ชีวิตเลยพลิกผันไปทำงานสายการเงินนานหลายปี ต่อเนื่องด้วยปริญญาโทที่ไม่เกี่ยวกับดนตรีอีกหนึ่งใบ จนในที่สุดหลังจากทำงานสายการเงินมาราว 10 ปี ความชอบดนตรีมากกว่าตัวเลข ก็พาผมมาเปิดร้านขายกีตาร์อยู่หน้าบ้าน ขายไปขายมาก็มาแต่งเพลง ทำเพลง ออกอัลบั้มอินดี้ไปด้วย และนี่คือตอนที่ได้สัมผัสกับ อูคูเลเล่ แท้ ๆ ที่เพื่อนรักที่ทำเพลงด้วยกันถือเดินเข้ามา

เจ้าอูคูเลเล่ตัวนั้นไม่ใช่อูคูเลเล่ป๋องแป๋งจากร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต แต่มันคือ คามาค่า อูคูเลเล่ที่เก๋าที่สุดในโลกจากฮาวาย ผมเองที่เคยแต่ได้เล่นอูคูเลเล่ซังกะบ๊วย ที่แม้เราจะพิศวาสมันแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่หยิบมาเล่น ความเพี้ยนและความทึบของเสียง ที่ฟังแล้วไม่น่าจะใช่เครื่องดนตรี ก็พาให้อยากวางมันลงทันที พอมาได้จับ ได้สตรัมเจ้า คามาค่า ตัวนั้นแล้ว มันเปรียบเสมือนการที่ปกติเราเดินเท้าเปล่าไปปากซอยบนถนนลูกรัง แล้วอยู่ ๆ ทางเส้นนั้นกลายเป็นพื้นปูพรมทอดยาวไปถึงหน้าปากซอย มันช่างแตกต่างยิ่งนัก แน่นอนว่าผมหลงรัก อูคูเลเล่ ไปอย่างเต็มเปาตั้งแต่วินาทีนั้น 


เรื่องราวหลังจากนั้น ผมเล่าไปหลายครั้งหลายหน ซึ่งก็ไม่เคยเบื่อที่จะเล่า แต่ท่านผู้อ่านน่าจะเบื่อ เลยขอวาร์ปมาหลังจากนั้นเกือบ 20 ปี ผมยังพบว่าอูคูเลเล่ยังน่ารักเหมือนเดิม ส่วนผมก็บ้าอูคูเลเล่ขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่ากีตาร์ผมก็ยังเล่นควบคู่ไปด้วย และสะสมอยู่เรื่อย ๆ แต่ตอนนี้บอกได้อย่างเต็มปากว่า ถ้าจะหยิบอะไรมาเล่น ผมเลือกหยิบอูคูเลเล่ก่อนเสมอ ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ มันเล็ก เบา เสียงเจื้อยแจ้ว และเล่นง่ายดีครับ

พูดถึงความเล็ก ความที่ผมเป็นคนที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา อูคูเลเล่สามารถเดินทางไปกับผมได้ทุกที่แบบไม่กินที่ โดยเฉพาะหากต้องขึ้นเครื่องบิน ถ้ากล้า ๆ ผมก็เอาเข้ากระเป๋าเดินทางใส่ใต้ท้องเครื่องไปเลย ถ้ากลัว ๆ ผมก็ถือขึ้นเครื่องไปด้วยกัน ถ้าขนากเทนเนอร์ลงไป เอาใส่ไว้ที่เก็บสัมภาระเหนือหัวได้สบาย บางทีก็เอาไว้ใต้เก้าอี้ข้างหน้า เมื่อถึงจุดหมายก็แค่สะพายมันไปอย่างเบา ๆ ไม่ต้องถือแบกลากให้ทุลักทุเล ค่าความเกะกะเท่ากับศูนย์

นอกกจากความเล็กแล้ว อูคูเลเล่เป็นอะไรที่เบาด้วย บางอย่างมันเล็ก แต่น้ำหนักมันไม่เบา ซึ่งไม่ใช่อูคูเลเล่ เพราะด้วยโครงสร้างและวัสดุของเขา ไม่น่าเกิน 2 กิโลกรัม ซึ่งส่วนมากก็แค่ 1 กิโลกว่า ๆ เท่านั้นเอง ทำให้พกพาไปไหนได้อย่างไม่ล้า ผมไม่ได้จะหาว่ากีตาร์ไม่ดี แต่ผมเคยพากีตา์ข้ามประเทศไปด้วยกันหลายครั้ง ความสาหัสของการพกพานั้นมีอยู่พอสมควร ต่างจากครั้งที่เอาอูคูเลเล่ไปด้วยมาก แต่อย่างไรก็ตามกีตาร์ก็เป็นเครื่องดนตรีที่ให้เสียงเพราะ และถ้าใครทุ่มเท ก็เอามันไปไหนมาไหนด้วยได้แหละครับ

มาถึงเรื่องเสียง ตอนนี้หูผมจะถวิลหาเสียงของอูคูเลเล่มากกว่ากีตาร์ เนื่องจากกลายเป็นคนที่เล่นอูคูเลเล่เพราะกว่ากีตาร์ไปแล้ว ถ้าจะให้เล่นอะไรหวาน ๆ ผมต้องใช้อูคูเลเล่ ครั้นจะให้เล่นอะไรเผ็ดร้อน ผมก็ต้องใช้อูคูเลเล่ เพราะเหมือนกับว่าเราขี่อูคูเลเล่ชำนาญกว่าการบังคับกีตาร์เสียแล้ว ซึ่งเสียงของอูคูเลเล่นั้น หลายท่านที่ไม่ได้รักอูคูเลเล่ มักจะบ่นว่าเสียงมันไม่เต็ม ไม่ครบ ไม่เหมือนกีตาร์ที่มีความเต็มอิ่มของสายเบส และความแหลมของสายล่าง ๆ แต่ผมก็พบว่ากีตาร์ไม่สามารถสร้างเสียงที่อูคูเลเล่สร้างได้ เสียงอูคูเลเล่คือเสียงเล็ก ๆ น้อยๆ  ที่กีตาร์มาไม่ถึง ส่วนอูคูเเล่ก็ทำเสียงกีตาร์ไม่ได้ ปรมาจารย์ทางอูคูเลเล่ท่านหนึ่งสอนเหล่าลูกศิษย์ว่า ถ้าจะเล่นอูคูเลเล่ให้เป็นกีตาร์ ให้ไปหากีตาร์มาเล่น มันจะเพราะกว่ามาก แต่ถ้าอยากเล่นอูคูเลเล่ให้เป็นอูคูเลเล่ ก็เล่นด้วยวิถีอูคูเลเล่ แล้วจะได้เสียงอูคูเลเล่ที่กีตาร์ดีแค่ไหนก็ทำไม่ได้

ประเด็นสุดท้ายที่จะเล่าคือความเล่นง่าย เป็นที่รู้กันว่าอูคูเลเล่นั้นเล่นง่ายมาก จับคอร์ด  C หรือคอร์ด F ได้ง่ายกว่ากีตาร์มาก สามารถเล่นเป็นได้เร็วกว่า แถมเวลากดก็กดง่ายกว่า เพราะใช้แรงน้อย ประกอบกับสายที่ใช้ก็นิ่มกว่า แต่ที่ผมชอบที่สุดคือความห่างระหว่างสาย มันหห่างกว่ากีตาร์อย่างมีนัยะสำคัญ ผมเป็นคนไม่ค่อยตัดเล็บมือที่ใช้กดคอร์ด ซึ่งถ้าเป็นกีตาร์ที่ตัวใหญ่กว่ามาก จะไม่สามารถเล่นได้ดี เนื่องจากเล็บไปติดอีกสายอื่นเวลากด แต่พอมาที่อูคูเลเล่ แม้ไว้เล็บยาวไปถึงระดับใช้แทนไขควงได้ ผมก็ยังเล่นอูคูเลเล่เพลงที่ซับซ้อนได้ โดยไม่ติดขัดอะไร บางคนกลัวว่าจะกดคอร์ดอูคูเลเล่ไม่ได้ กลัวไซส์ที่เล็ก แต่แท้ที่จริงแล้ว มันกดง่ายกว่ากีตาร์เสียอีกครับ

นี่แหละครับคือสเน่ห์ของอูคูเลเล่ ที่ผ่านมากี่ปีกี่ปีก็ยังมีอยู่เต็มเปี่ยมเหมือนเดิม ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่จะอยู่กับผมไปจนตาย ด้วยความดีงามตามที่เล่า และจริตเครื่องดนตรีที่ไม่ซีเรียสจนเกินไป ผมขอหลงรักอูคูเลเล่ตลอดไปครับ 

Back to blog