การเลือกซื้อ อูคูเลเล่ ให้ได้ดั่งใจ

การเลือกซื้อ อูคูเลเล่ ให้ได้ดั่งใจ

 

สวัสดีครับ วันนี้จะมาคุยเกี่ยวกับเรื่องการเลือกซื้ออูคูเลเล่ครับ จากประสบการณ์เกือบ 10 ปี ในวงการอูคูเลเล่ ผมได้สนทนากับผู้เลือกอูคูเลเล่มากมาย แต่ละคนมีจุดหมายในการครอบครองอูคูเลเล่แตกต่างกัน ทำให้ผมเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกท่านจะตัดสินใจเลือกอูคูเลเล่ตัวเดียวกัน และแน่นอนอูคูเลเล่แต่ละตัวนั้น สร้างมาเพื่อเจ้าของที่แตกต่างกัน ถ้าคุณมองหาอูคูเลเล่สักตัว ลองแวะมาใช้ตาเดินชมกับผมกันครับ เพื่อการหาอูคูเลเล่ให้ได้ดั่งใจเรา

อูคูเลเล่นั้นเป็นเครื่องดนตรีถือกำเนิดจากฮาวายและมีสี่สาย อันนี้ทุกท่านทราบดี ทว่าแต่ละท่านมีจุดประสงค์การพามันกลับบ้านแตกต่างกันไป ผมขอจำแนกคร่าวๆ ดังนี้ครับ

1. วัสดุคล้ายอูคูเลเล่ เล่นขำๆ แต่งบ้านได้ 

 

(Picture Credit : ABC Store)

สำหรับอูคูเลเล่ที่เล่นขำๆ แต่งบ้านได้ ที่ผมอ้างถึงนี้ คืออูคูเลเล่ที่ผู้สร้างไม่ได้ตั้งใจจะให้เอามาเล่นเป็นเครื่องดนตรี แต่ทำเพื่อเป็นที่ระลึก ของฝาก ที่มีรูปลักษณ์คล้ายอูคูเลเล่ โดยมีลูกบิดชนิดที่ตั้งเสียงอย่างไรคงไม่เที่ยงตรง สายที่ไม่ใช้วัสดุสำหรับนำมาทำสาย โครงสร้างที่แค่ทำให้เป็นรูปทรงอูคูเลเล่ แต่ปราศจากโครงสร้างภายในที่สำคัญ ทั้งนี้เพราะเขาทำให้เอามาตกแต่งเสียมากกว่านำมาเล่นดนตรี อูคูเลเล่ประเภทนี้ถ้าพยายามตั้งเสียงแล้ว อาจจะเล่นได้บ้าง แต่เล่นแล้วเสียงเพี้ยนแน่ๆ เพราะผู้ผลิตเขาไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ ความดังของเสียงจะอั้นมากๆ เพราะวัสดุไม่ได้มาตรฐาน น่าขำมากที่มีอยู่ยุคหนึ่ง อูคูเลเล่ประเภทนี้ ที่ขายจริงๆ ราว 300 กว่าบาท ได้ถูกนำมาขายที่บ้านเราสูงถึง 2-3 พันบาท ใครได้ไป ร้อยทั้งร้อยเลิกเล่น และบอกต่อว่าอูคูเลเล่คือของเล่น ซึ่งหากการหาอูคูเเล่ของคุณคือการเอาไปแต่งบ้าน นี่คือประเภทที่แนะนำ

2. อูคูเลเล่เริ่มต้น เล่นได้จริง แต่มีอั้น

ขยับขึ้นมาอีกสักนิด จะเป็นอูคูเลเล่ที่สามารถนำมาเล่นได้จริง ลูกบิดจะเป็นลูกบิดที่ใช้สำหรับทำเครื่องดนตรีจริง แต่เป็นแบบคุณภาพต่ำ บิดยากสักนิด และต้องตั้งเสียงบ่อยหน่อย สายจะเป็นสายสำหรับอูคูเลเล่ แต่มักเป็นสายคุณภาพต่ำที่ผู้ซื้อต้องมาหาสายดีๆ เปลี่ยนอีกที อูคูเลเล่ประเภทนี้ส่วนมากจะเป็นประเภทที่มีลวดลายกราฟฟิค หรือสีสันมากมายภายใต้ลวดลายและสีสันนั้นคือไม้ที่คุณภาพต่ำ ยิ่งทับด้วยกราฟฟิค หรือสีอีกชั้น เสียงจะออกมาทึบ ความดังจะน้อย และแน่นอนว่าเมื่อเป็นอูคูเลเล่ราคาเบา เขาจะไม่ได้เน้นเรื่องการเก็บงานเฟร็ท หรือแอคชั่น จึงทำให้เฟร็ทคม และเล่นยากเนื่องจากสายอยู่สูงเวอร์ แต่ก็ไม่ใช่ทุกผู้ผลิตที่มุ่งทำอูคูเลเล่ประเภทนี้แบบไม่สนคุณภาพ ยังพอมีบ้างเป็นบางแบรนด์ที่ทำออกมาดี ซึ่งจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงขึ้นมา ทำหลายรุ่นตั้งแต่เริ่มๆ ไปจนถึงไฮเอนด์ เมื่อเขาทำรุ่นเริ่มต้นจึงยังคงพยายามให้มีคุณภาพอยู่บ้าง อูคูเลเล่ประเภทนี้ จะมีมากมายมหาศาล เพราะโรงงานที่จีนพากันผลิตออกมาเรื่อยๆ ในยุคอูคูเลเล่บูม และยังหลงเหลือในบ้านเรามากมาย พร้อมทั้งของใหม่ที่พ่อค้าที่ไม่ได้สนใจคุณภาพไปกว่ากำไรสั่งเข้ามา เลือกแบบนี้ตาดีได้ตาร้ายเสียครับ ราคามีตั้งแต่ 600-2,000 บาทโดยประมาณ เวลาเลือกผมก็ขอแนะนำให้ไปดูที่เว็ปไซต์ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮาวาย หรือประเทศที่มีคุณภาพ ว่าเขาใช้ยี่ห้ออะไร ถ้ายี่ห้อนั้นๆ ผลิตรุ่นเริ่มๆ นี้ก็พอไหวครับ แต่ยังไงเสียงอั้นแน่ๆ ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ซีเรียส แค่อยากมีอูคูเลเล่ไว้เท่ๆ แต่งบ้านได้ หรือชอบลวดลาย ใครไปใครมาหยิบดีดสองสามทีวาง นี่คือสิ่งที่แนะนำครับ

3. อูคูเลเล่เริ่มต้น ได้มาตรฐาน เหมาะสำหรับใช้เริ่มเรียน

หากจุดหมายของคุณคือการหัดเล่นอูคูเลเล่ เพื่อให้เล่นได้จริง นี่คือสิ่งที่แนะนำครับ เพราะอูคูเลเล่ประเภทนี้จะใช้วัสดุทีมีคุณภาพได้มาตรฐาน ไม้จะเป็นไม้ที่เหมาะสมกับการทำอูคูเลเล่ และเกรดโอเค ถึงจะเป็นไม้เลเยอร์ (บางๆ สอง ถึง สาม ชั้นแปะทับกัน) ก็ให้สุ้มเสียงดีระดับน่าพอใจ สายที่ให้มาจะเป็นสายอควิล่า ซึ่งเป็นผู้ผลิตอิตาลีที่เป็นผู้นำการทำสายอูคูเลเล่ที่ใช้กันแพร่หลาย (ทั้งนี้ก็มีสายอควิร่าปลอมในตลาดด้วย ก็ต้องดูที่ผู้ผลิตเป็นหลักครับ แบรนด์ไก่กาอาราเร่ อาจใช้ของปลอมได้) ผมเองก็แนะนำนักเรียนที่ยังไม่อยากลงทุนมากนักกับอูคูเลเล่ให้เริ่มที่อูคูเลเล่ประเภทนี้ เพราะถ้าใช้ของที่มีมาตรฐานแล้ว เขาจะเล่นได้ง่ายขึ้น เสียงจะดีขึ้น สัมผัสจะสบายขึ้น และแน่นอนหน้าตามันก็จะดูมีดีไซน์น่าหยิบขึ้นมาเล่น ที่สำคัญประเภทนี้มักมาพร้อมกระเป๋าด้วย ทำให้ไม่ต้องไปหาซื้อกระเป๋าให้เสียเงิน 

4. อูคูเลเล่ไม้หน้าโซลิด ได้ความบาลานซ์เพิ่มมา สำหรับคนเอาจริง

สำหรับท่านที่หาอูคูเลเล่ตัวที่สองหลังจากเล่นตัวแรกมาแล้วและค้นพบว่าชอบที่จะเล่น จึงหาของมีคุณภาพขึ้น หรือท่านที่อยากเริ่มด้วยอูคูเลเล่ที่ดีขึ้นมา ผมแนะนำให้เลือกอูคูเลเล่ที่มีไม้หน้าเป็นไม่โซลิด ก่อนอื่นขอเล่าว่ามันคืออะไร ไม้โซลิดนี้ คือไม้หนึ่งแผ่นที่นำมาใช้เป็นไม้หน้าของอูคูเลเล่จะเป็นแผ่นเดียวกันเลย ต่างจากประเภทก่อนหน้าที่จะเป็นไม้สองถึงสามแผ่นแปะทับกัน ซึ่งตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วเสียงย่อมเดินทางผ่านไม้ชิ้นเดียวได้สะดวกกว่าเดินทางผ่านไม้หลายชั้น จึงทำให้สุ้มเสียงของอูคูเลเล่ไม้โซลิดนั้น ในขณะที่มีความดังกังวาล ยังมีความบาลานซ์ของเสียงมากกว่า หากจะให้เห็นภาพ ลองนึกให้เสียงสามารถมองเห็นได้ ถ้าเสียงจากไม้หลายชั้นแปะทับกัน จะออกมาเป็นแสงกระจายไปทั่วและแกว่งไม่สม่ำเสมอ ส่วนเสียงจากไม้โซลิดจะเป็นคล้ายไฟฉายแบ็ทแมน พุ่งตรงเป็นลำออกมาเลย และแน่นอนเมื่อคุณภาพดีขึ้น การตกแต่งและงานฝีมือต่างๆ ก็ดีขึ้นด้วย ทำให้อูคูเลเล่ประเภทนี้มีความสวยงาม ผู้ผลิตอูคูเลเล่ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์หลักๆ ขึ้นมาจากประเภทก่อน สนนราคาจะอยู่ราวๆ 5 พัน ถึง หมื่นต้น ขึ้นอยู่กับว่าใครคือผู้ผลิต ทั้งนี้อาจมีแบรนด์ไฮเอนด์ที่สร้างอูคูเลเล่แบบนี้ในราคาที่สูงขึ้นอีก แต่เมื่อได้ลองแล้วก็จะเข้าใจว่ามันก็ดีกว่าจริงๆ ครับ

5. อูคูเลเล่ ออลโซลิต สิ่งที่อูคูเลเล่ควรจะเป็น

ถ้าท่านต้องการใช้อูคูเลเล่แบบที่สมัยแรกเริ่มเดิมที่เขาใช้กัน ตัวเลือกคือประเภทที่ใช้ไม้ชิ้นเดียวทุกแผ่นในการสร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่สมัยก่อนเขาทำกัน สุ้มเสียงโดยรวมจะดีเด่นขึ้นมาอย่างมาก หากผู้ผลิตเป็นสำนักที่เข้าใจการผลิตอูคูเลเล่ (จะมีงานจากหลายผู้ผลิต ที่พยายามสร้างอูคูเลเล่ออโซลิต แต่ขาดความเข้าในเนื่องจากสร้างเป็นแต่กีตาร์ ทำให้เสียงออกมาทึบ คอหนัก แอ๊คชั่นสูง) จึงแนะนำเช่นเคย ให้ไปดูจากเว็ปต่างประเทศแล้วดูว่าเขาใช้อะไรกัน จะให้ดีคือดูจากหนังสือ Ukulele Magazine ของญี่ปุ่น ทุกแบรนด์ที่ลงในนั้นล้วนได้มาตรฐาน ที่ผมเอะอะอะไรก็ญี่ปุ่น ก็เพราะที่นั่นเขาใช้ของดีจริง เลือกเฉพาะของมีคุณภาพ การจะดูว่าอะไรมีคุณภาพ จึงควรดูจากญี่ปุ่นครับ สำหรับอูคูเลเล่ประเภทนี้ ขอแนะนำให้ท่านที่มีงบและพอใจจะใช้ของดี ที่มากับความดีงามกว่าในทุกด้าน ท่านจะไม่ผิดหวังและต้องมาเสียเงินซ้ำสอง

6. อูคูเลเล่ทำจากฮาวาย  และ ญี่ปุ่น

อูคูเลเล่ที่ทำจากฮาวายมีหลากหลายแบบ ทั้งแบบที่แรงงานจีนบินไปอยู่ฮาวายแล้วสร้างอูคูเลเล่ที่นั่น หรือแบบส่งวัสดุจากจีนไปประกอบที่ฮาวาย ก็มักโฆษณาว่าเป็นอูคูเลเล่ฮาวาย ทว่าที่ผมพูดถึงคือของดีของฮาวายจริงๆ ซึ่งเขาก็มีหลายแบรนด์ แต่ขอกล่าวถึงสำนักหนักๆ ที่มีชื่อเสียง สามารถเก็บสะสมลุ้นราคาขึ้นได้ในระยะยาว และได้รับความยอมรับจากศิลปินมากมาย นั่นคือ Kamaka, Kanile'a, KoAloha, Ko'olau, Imua เป็นต้น อูคูเลเล่จากสำนักเหล่านี้ ถือเป็นอูคูเลเล่ชั้นดี ที่ไว้ใจได้ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน อย่างเช่น คามาค่า ที่มีอายุร้อยกว่าปีแล้ว กาลเวลาได้พิสูจน์คุณภาพและคุณค่าของอูคูเลเล่แบบนี้ ยกตัวอย่างเช่นอูคูเลเล่มูลค่า 600 บาทในอดีตเกือบร้อยปีก่อนของ คามาค่า ปัจจุบันมีราคาสูงถึง 100,000 บาทขึ้นไปก็มี จะเห็นว่าอูคูเลเล่ประเภทนี้สามารถเก็บเป็นของสะสมได้ พร้อมๆ กับเล่นแล้วมีความสุข เพราะคุณภาพดี

อูคูเลเล่ที่ทำที่ญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เล่นๆ เพราะงานฝีมือเขาจะปราณีตมากๆ อันนี้ผมพูดถึงอูคูเลเล่คัสตอมจากสำนักต่างๆ นะครับ ถ้าสนใจผมแนะนำ Toda, Shimo, Mitsuta, Chihale, Isana, Tashiro, Truth, Seilen ซึ่งแต่ละค่ายที่กล่าวมา ผลิตอูคูเลเล่ได้ปีละไม่กี่ตัว สุ้มเสียง สัมผัส และหน้าตา ไม่มีที่ติครับ ราคาก็สูงตามไป แต่หากงบถึงท่านจะลืมอูคูเลเล่แบบอื่นๆ ไปเลย ส่วนที่สามารีถจับต้องได้ก็มี Kiwaya ที่เป็นสำนักเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่ผลิตตั้งแต่รุ่นเริ่มๆ ไปจนถึงระดับไฮเอนด์

7. อูคูเลเล่เมดอินไทยแลนด์

สมัยก่อนมีผู้ผลิตอูคูเลเล่ของไทย พยายามสร้างอูคูเลเล่กันมาก แต่ส่วนมากจะไปไม่ถึงดวงดาวด้วยเหตุผลต่างๆ จะมีก็แบรนด์ Rebel ที่ยืนหยัดและพัฒนาอูคูเลเล่ระดับคัสตอม ได้ออกมามีคุณภาพเทียบเท่าระดับโลกเลยทีเดียว ผมเองลองแล้วยังชื่นชม นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่มีงบสูงขึ้นมาครับ

เอาล่ะครับ จบสักทีกับการแนะนำคร่าวๆ ของผม จริงๆ อูคูเลเล่ นั้นมีประเภทยิบย่ิยมากมายกว่านี้นัก แต่ผมขอเล่าคร่าวๆ ให้ท่านที่กำลังตัดสินใจเลือกอูคูเลเล่ได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกครับ ผมเข้าใจดีว่าแต่ละท่านมีความต้องการแตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ คือหากสนใจอูคูเลเล่ ลองมาปรึกษา หรือมาชมอูคูเลเล่ที่ร้านอูคูเลเล่ที่มีแต่คนคร่ำหวอดเรื่องอูคูเลเล่คอยบริการท่านอยู่ไหมครับ ยินดีตอบทุกคำถาม ลองได้ทุกชิ้น ด้วยความเต็มใจ เพราะเรารักอูคูเลเล่จริงๆ ไม่ใช่พ่อค้าบ้ากำไร

เจอกันที่ริบบี Kumabee ตึก 55 ปากซอยทองหล่อ 2 ครับผม 

Back to blog